เติมน้ำมันผิด เครื่องยนต์พังไหม แก้ยังไงดี?

หนึ่งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อย แต่เกิดขึ้นเมื่อไหร่เป็นอันต้องปวดหัวไปซะทุกครั้ง นั่นคือเรื่องของการเติมน้ำมันผิด แก้ยังไง ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์ที่เติมน้ำมันผิดในรูปแบบน้ำมันประเภทเดียวกัน อาจยอมทนใช้งานไปสักพักแล้วค่อยเติมใหม่ได้ แต่ถ้าเป็นน้ำมันคนละประเภท เครื่องยนต์คนละรุ่น แล้วมีการเติมน้ำมันผิดไป จะแก้ไขยังไง สำหรับบทความนี้มีคำตอบในการแก้ไขปัญหาให้กับคนรักรถทุกคน

เติมน้ำมันผิดแก้ยังไง อย่าเพิ่งตกใจแก้ไขได้ไม่ยาก

แม้ว่าการเติมน้ำมันผิดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะการเข้ารับบริการศูนย์เติมน้ำมันที่มีรถเข้าใช้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก จนอาจเกิดความสับสนจนเติมน้ำมันผิด ซึ่งเมื่อเติมน้ำมันผิดเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ มีขั้นตอนสำหรับการแก้ไข ดังนี้

  • การแก้ไขในกรณียังไม่ทันได้ใช้งานรถที่เติมน้ำมันผิด

เมื่อคุณรู้ตัวแล้วว่าเติมน้ำมันผิด สิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วนคือ ห้ามสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้น้ำมันที่ถูกเติมเข้าไปไหลเข้าสู่ห้องเครื่อง จากนั้น ให้ทำการถ่ายน้ำมันออกมาให้หมดแล้วค่อยเติมน้ำมันใหม่ที่ถูกต้องเข้าไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่ น้ำมันที่เติมผิดที่เหลือติดค้างในถังน้ำมันเหล่านั้น จะค่อย ๆ ถูกน้ำมันใหม่ทำละลายหายไปหมดนั่นเอง แต่ถึงกระนั้น เมื่อสตาร์ทรถแล้ว อย่าเพิ่งรีบใช้งาน ควรทำการติดเครื่องเพื่อตรวจสอบดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ค่อยขับรถใช้งานต่อไป

  • การแก้ไขในกรณีใช้งานรถไปแล้วจนรถดับ

อีกกรณีคือ เมื่อเติมน้ำมันผิดและได้นำรถออกไปใช้งานแล้วจนเกิดภาวะเครื่องยนต์ดับ รถสตาร์ทไม่ติด ไปต่อไม่ได้ ควรทำการเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือด้วยการถ่ายน้ำมันออกให้หมด จากนั้นให้เติมน้ำมันที่ถูกต้องใส่เข้าไป ไม่ควรสตาร์ทรถหรือฝืนใช้งานด้วยน้ำมันผิดต่อไป “เด็ดขาด” และเมื่อทำการเติมน้ำมันใหม่ที่ถูกต้องแล้ว ให้ทำการสตาร์ทเครื่องตรวจสอบความเรียบร้อย แล้วนำรถเข้าศูนย์ซ่อมรถเพื่อตรวจสอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ หัวเทียนและไส้กรอง เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีน้ำมันที่เติมผิดไปนั้นหลงเหลืออยู่ในระบบ

เติมน้ำมันรถยนต์ผิดแก้ไขได้ไม่ยาก แต่ต้องรีบจัดการโดยทันที ต้องไม่ฝืนใช้งานน้ำมันผิดประเภท เพราะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ อาจทำให้ลูกสูบ หรือกระบอกสูบเสียหายได้ เมื่อรู้ตัวแล้วว่า เติมน้ำมันผิด จะใช้งานรถไปแล้วหรือไม่ก็ตาม ให้แก้ไขตามขั้นตอนอย่างถูกต้องย่อมรักษาสภาพรถของคุณให้ใช้งานต่อไปได้นั่นเอง

แชร์บทความนี้